ธีราทร บุญมาทัน

Defender บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
5

Player Profile

วันเกิด 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2533
สถานที่เกิด นนทบุรี ประเทศไทย
ส่วนสูง 171 cm
น้ำหนัก -
สัญชาติ ไทย

Career Information

ย้ายเขาสโมสรปัจจุบัน 2565
Previous Club เมืองทอง ยูไนเต็ด
Present Club บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ธีราทร บุญมาทัน (เกิด 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2533) ชื่อเล่น อุ้ม เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวไทย ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายให้กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดและทีมชาติไทย ซึ่งธีราทรเป็นนักเตะไทยคนแรกที่คว้าแชมป์เจลีก 1 ได้กับโยโกฮามะ เอ็ฟ มารินอส และเขาเป็นผู้เล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายที่ได้รับสมญาว่า “อีซ้ายมหัศจรรย์

ธีราทร เกิดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2533 ที่จังหวัดนนทบุรี เป็นบุตรของ สมหมาย บุญมาทัน ซึ่งประกอบอาชีพช่างตัดผม และ เพียงใจ บุญมาทันซึ่งรับจ้างประกอบเลนส์แว่นตา เขาศึกษาที่โรงเรียนวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดบ้านเกิดจนถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จากนั้นจึงย้ายไปเรียนที่โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร จนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โดยในช่วงนั้น เขาได้ฝึกเล่นฟุตบอลไปด้วย

ต่อมาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เขาศึกษาที่โรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี ซึ่งทำให้เขาได้เล่นฟุตบอลเยาวชนร่วมกับกวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ และคว้าแชมป์ฟุตบอลนักเรียนหลายรายการ หลังจากจบมัธยมศึกษาตอนปลายแล้ว ก็ได้เล่นฟุตบอลอาชีพให้กับราชประชา ก่อนที่จะย้ายมาเล่นให้กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือชื่อเดิมในตอนนั้นก็คือ สโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

สโมสร

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ฤดูกาล 2557

ในวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2557 เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก กลุ่ม E นัดที่ 4 ธีราทรทำประตูให้บุรีรัมย์ขึ้นนำ เซเรซโซ โอซากะ สโมสรจากญี่ปุ่น 1–0 ก่อนที่จะจบลงด้วยผลเสมอ 2–2[6] ต่อมาในวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ธีราทรทำประตูแรกในไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2557 ช่วยให้ บุรีรัมย์ เปิดบ้านเอาชนะ แบงค็อก ยูไนเต็ด ไปได้ 3–0 ต่อมาในวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 มูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย ธีราทรทำหนึ่งประตู ทำให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเสมอกับ บางกอกกล๊าส 2–2 ในเวลา 120 นาที ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ สุดท้าย บุรีรัมย์ พ่ายแพ้ในช่วงการยิงลูกโทษ 3–5 ยุติเส้นทางใน เอฟเอคัพ เพียงเท่านี้[7] ต่อมาในวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ธีราทรทำประตูที่ 2 ในลีก ในนัดที่ บุรีรัมย์ บุกไปเสมอกับ พีทีที ระยอง 1–1[8]

ฤดูกาล 2558

ในวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2558 เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก กลุ่ม F นัดที่ 3 ธีราทรทำประตูช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปเสมอกับ กัมบะ โอซากะ 1–1[9] ต่อมาในวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558 ธีราทรทำประตูแรกในไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2558 ด้วยลูกฟรีคิก ช่วยให้ บุรีรัมย์ บุกไปเอาชนะ เชียงราย ยูไนเต็ด 1–0 นับเป็นการบุกชนะเชียงรายครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร[10] ต่อมาในวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก กลุ่ม F นัดที่ 4 ธีราทรทำประตูขึ้นนำ กัมบะ โอซากะ จากลูกเตะมุม แต่สุดท้าย บุรีรัมย์ ก็พ่ายแพ้ในบ้านไป 1–2[11] ต่อมาในวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 ธีราทรทำประตูที่ 2 ในลีก ช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะ ทีโอที ที่แจ้งวัฒนะ 4–0[12] ต่อมาในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558 ช้าง เอฟเอคัพ รอบ 64 ทีมสุดท้าย บุรีรัมย์เปิดบ้านเสมอกับ แบงค็อก ยูไนเต็ด ในเวลา 90 นาที 0–0 ต้องต่อเวลาพิเศษเพื่อหาผู้ชนะ 30 นาที สุดท้าย ธีราทรทำหนึ่งประตู ทำให้บุรีรัมย์เอาชนะในช่วงต่อเวลาไปได้ 3–0 ผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ต่อมาในวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2558 ธีราทรทำประตูที่ 3 ในลีก ช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะ แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่สนามไทย-ญี่ปุ่น (ดินแดง) 3–0

ฤดูกาล 2559

ในวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2559 ธีราทรทำประตูแรกในไทยลีก ฤดูกาล 2559 ในนัดที่ บุรีรัมย์ เปิดบ้านเสมอกับ สุพรรณบุรี 2–2[13] ต่อมาในวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 ธีราทรลงเล่นนัดสุดท้ายให้กับสโมสร ในนัดที่ บุรีรัมย์ เปิดบ้านเสมอกับ ชัยนาท ฮอร์นบิล 0–0[14] หลังจากนั้น เจ้าตัวได้ย้ายไปเล่นให้กับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในเลกที่สองของฤดูกาล

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

ในวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เฟซบุ๊คเพจอย่างเป็นทางการของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด[15] เปิดเผยแถลงข่าวการขาย ธีราทร บุญมาทัน ให้กับทีมร่วมลีกอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข้อเสนอซื้อจากหลายทีม ซึ่งเขาจะสามารถเริ่มประเดิมลงสนามให้กับต้นสังกัดใหม่ได้ในช่วงเลกที่สองของฟุตบอลไทยลีก 2559

ฤดูกาล 2559

ในวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2559 ธีราทร ลงประเดิมสนามนัดแรกและทำประตูแรกให้กับสโมสรในไทยลีก ฤดูกาล 2559 ช่วยให้ เมืองทอง เปิดบ้านเอาชนะ นครราชสีมา มาสด้า ไปได้ 4–1[16] ต่อมาในวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ธีราทรด้วยลูกฟรีคิก ช่วยให้ เมืองทอง เปิดบ้านเอาชนะ พัทยา ยูไนเต็ด ไปได้ 4–1[17] จบฤดูกาล ธีราทรลงเล่นในลีกให้กับเมืองทอง 12 นัด ยิงได้ 2 ประตู มีส่วนช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 4 ได้สำเร็จ

ฤดูกาล 2560

ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก กลุ่ม E ธีราทรทำประตูด้วยลูกฟรีคิก ช่วยให้ เมืองทอง เปิดสนามศุภชลาศัย เอาชนะ คาชิมะ แอนต์เลอส์ สโมสรจากญี่ปุ่น ไปได้ 2–1[18] ต่อมาในวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2560 ธีราทรทำประตูแรกในไทยลีก ฤดูกาล 2560 ช่วยให้เมืองทองบุกไปเอาชนะ ชลบุรี 3–0[19] ต่อมาในวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2560 ธีราทรทำประตูที่ 2 ในลีก ช่วยให้เมืองทองบุกไปเอาชนะซุปเปอร์พาวเวอร์ สมุทรปราการ ที่สนาม กกท.บางพลี 4–1[20] ต่อมาในวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2560 ธีราทรทำประตูที่ 3 ในลีก ช่วยให้เมืองทองขึ้นนำ ราชบุรี มิตรผล 1–0 แต่สุดท้ายก็โดนตีเสมอ 1–1[21] ต่อมาในวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 ธีราทรทำประตูที่ 4 ในลีก ช่วยให้เมืองทองบุกไปเอาชนะ แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่สนามฟุตบอลธรรมศาสตร์ รังสิต 4–2[22] ต่อมาในวันที่ 17 และ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 ธีราทรทำประตูด้วยลูกโทษในลีกสองนัดติดต่อกัน ในนัดที่เมืองทองเปิดบ้านแพ้ การท่าเรือ และ อุบล ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์ 2–3 เหมือนกัน[23][24] ต่อมาในวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2560 ธีราทรทำประตูที่ 7 ในลีก ทำให้เมืองทองเปิดบ้านเอาชนะ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ไปได้ 4–2[25] ต่อมาในวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2560 โตโยต้า ลีกคัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ธีราทรทำประตูใส่ทีมเก่าของเขา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ช่วยให้เมืองทองบุกไปเอาชนะ 2–0 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ[26] ต่อมาในวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 โตโยต้า ลีกคัพ รอบชิงชนะเลิศ เมืองทอง เจอกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่สนามศุภชลาศัยในกรุงเทพมหานคร สุดท้าย เมืองทอง เอาชนะ เชียงราย 2-0 ช่วยให้เมืองทองคว้าโตโยต้า ลีกคัพ สมัยที่ 2 ได้สำเร็จ[27]

ฤดูกาล 2561

ในวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2561 เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก รอบคัดเลือกรอบสอง ธีราทรทำหนึ่งประตูช่วยให้ เมืองทอง เปิดสนามศุภชลาศัย เอาชนะ ยะโฮร์ดารุลตาซิม สโมสรจากมาเลเซีย ไปได้ 5–2 ผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟได้สำเร็จ[28] หลังจากนั้น ธีราทรก็ได้ย้ายไปเล่นให้กับวิสเซล โคเบะ ในเจลีก ดิวิชัน 1 แบบยืมตัว

วิสเซล โคเบะ

ธีราทร ถูกยืมตัวไปเล่นในเจลีกของประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลาหนึ่งฤดูกาลกับสโมสรวิสเซล โคเบะในฤดูกาล 2561 ซึ่งทำให้ธีราทรมีโอกาสได้เล่นกับนักฟุตบอลระดับโลกอย่างเช่น ลูคัส โพดอลสกี และอันเดรส อินิเอสตา[29]

โยโกฮามะ เอ็ฟ มารินอส

ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2562 โยโกฮามะ เอ็ฟ มารินอส บรรลุข้อตกลงในการยืมตัว ธีราทร บุญมาทัน จากเมืองทอง ยูไนเต็ด มาเล่นในเจลีก ฤดูกาล 2562[30] ต่อมาในวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2562 ธีราทรลงเล่นตัวจริงในลีกนัดแรกให้สโมสร ในนัดที่ โยโกฮามะ เปิดบ้านตามตีเสมอแชมป์เก่า คาวาซากิ ฟรอนตาเล 2–2[31] ต่อมาในวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 ธีราทรมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของเจลีกประจำสัปดาห์ที่ 20 หลังจากที่เจ้าตัวมีส่วนช่วยให้ โยโกฮามะ บุกไปเอาชนะ วิสเซล โคเบะ ต้นสังกัดเก่าของเขา 2–0[32] ต่อมาในวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2562 ธีราทรทำประตูแรกในลีกและในนามสโมสร ช่วยให้ โยโกฮามะ เปิดบ้านเอาชนะ กัมบะ โอซากะ ไปได้ 3–1[33] ต่อมาในวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2562 ธีราทรทำประตูที่ 2 ในเจลีก ช่วยให้ โยโกฮามะ เปิดบ้านเอาชนะ ซานเฟรซ ฮิโรชิมะ 3–0[34] และในวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2562 นัดปิดฤดูกาลเจลีก ธีราทรยิง 1 ประตู และทำ 1 แอสซิสต์ ช่วยให้ โยโกฮามะ เปิดบ้านเอาชนะ เอ็ฟซี โตเกียว ไปได้ 3–0 ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นชาวไทยคนแรกที่คว้าแชมป์เจลีก[35]

ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2562 ธีราทร ได้เซ็นสัญญาถาวร 3 ปีกับโยโกฮามะ เอ็ฟ มารินอส เป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่เจ้าตัวได้เล่นให้กับสโมสรด้วยสัญญายืมตัวหนึ่งฤดูกาลเต็ม[36]

กลับสู่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

เดือนธันวาคม พ.ศ. 2564 ธีราทรได้แยกทางกับโยโกฮามะ เอ็ฟ มารินอส และย้ายกลับสู่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอีกครั้งหนึ่ง โดยเขาจะได้ลงเล่นให้แก่สโมสรในเลกที่สองของไทยลีก ฤดูกาล 2564–65[37] ในวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2565 เขาทำประตูที่แรกในลีก ช่วยให้ทีมบุกไปเอาชนะหนองบัว พิชญที่พิชญสเตเดียม 3–0 การันตีคว้าแชมป์ไทยลีก ฤดูกาล 2564–65 ได้สำเร็จ ต่อมาในวันที่ 25 พฤษภาคม การแข่งขันรีโว่ ลีกคัพ 2564–65 รอบรองชนะเลิศ เขาทำประตูชัยช่วยให้ทีมเอาชนะสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ดที่ชลบุรีสเตเดียมไปได้ 1–0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ[38]

วันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เขาทำประตูแรกในไทยลีก ฤดูกาล 2565–66 ช่วยให้ทีมบุกไปเอาชนะการท่าเรือที่แพตสเตเดียม 3–1[39] ต่อมาในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เขาทำประตูที่ 2 ในลีก เป็นประตูจากการยิงฟรีคิก ช่วยให้ทีมบุกไปเสมอกับทีมเก่าของเขาอย่างเมืองทอง ยูไนเต็ดที่ธันเดอร์โดมสเตเดียมแบบสนุก 4–4[40]

ทีมชาติ

ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2554 การแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติซาอุดีอาระเบีย เขาได้รับใบแดงให้ออกจากสนาม[41] และในอีกไม่กี่วันถัดมา การแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 26 ระหว่างทีมชาติไทย พบกับทีมชาติอินโดนีเซีย ธีราทรซึ่งถูกเรียกเข้าติดทีมชุดซีเกมส์ หลังตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก ก็ได้รับใบแดงอีกครั้ง แต่เขาก็สามารถกับมาเล่นทีมชาติได้[42] ต่อมาใน พ.ศ. 2558 เขาได้รับเลือกจากเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ให้เป็นกัปตันทีมชาติชุดใหญ่เมื่อนัดเจอกับเวียดนามและไต้หวัน ในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก

ในวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2562 ธีราทร มีชื่อติดทีมชาติไทยเบื้องต้น 33 คน[43] และในวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2562 ธีราทร ยังคงมีชื่อติดทีมชาติไทยในรอบที่ตัดตัวเหลือ 23 คนสุดท้าย ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก นัดที่ไทยจะเปิดบ้านพบกับเวียดนามและออกไปเยือนอินโดนีเซีย[44] ต่อมาในวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2562 ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก นัดที่สอง ไทยออกไปเยือนอินโดนีเซียที่สนามกีฬาหลักเกอโลราบุงการ์โน ธีราทรยิงลูกจุดโทษ ช่วยให้ ทีมชาติไทย บุกไปชนะ อินโดนีเซีย ถึงถิ่น 3–0 เก็บชัยชนะนัดแรกในรอบคัดเลือกได้สำเร็จ และเป็นการบุกชนะที่บ้านของอินโดนีเซียเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปีอีกด้วย[45] ต่อมาในวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2562 ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก นัดที่ 3 ธีราทรได้รับใบเหลืองสะสมในนัดที่ไทยเปิดบ้านเอาชนะสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไปได้ 2–1 ทำให้เขาจะไม่ได้ลงเล่นในนัดที่ไทยจะออกไปเยือนมาเลเซีย ต่อมาในวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก นัดที่ 5 ธีราทรยิงลูกโทษไม่เข้า ทำให้ทีมชาติไทยทำได้เพียงบุกไปเสมอกับเวียดนามที่สนามกีฬาหมีดิ่ญ 0–0 [46]

วันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2567 ธีราทรลงเล่นให้แก่ทีมชาติไทยครบ 100 นัด ในการแข่งขันเอเชียนคัพ 2023 ที่ไทยเสมอกับโอมาน 0–0

อ้างอิงข้อมูลจาก : https://th.wikipedia.org/wiki