ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา
Forward บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดPlayer Profile
วันเกิด | 2 สิงหาคม พ.ศ. 2545 |
สถานที่เกิด | อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย |
ส่วนสูง | 173 Cm |
น้ำหนัก | - |
สัญชาติ | ไทย |
Career Information
ย้ายเขาสโมสรปัจจุบัน | 2024 |
Present Club | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด |
ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (ชื่อเล่น: แบงค์; เกิด 2 สิงหาคม พ.ศ. 2545) เป็นนักฟุตบอลชาวไทย ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองหน้าให้แก่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในไทยลีก และทีมชาติไทย
ศุภณัฏฐ์ เป็นน้องชายของ สุภโชค สารชาติ ซึ่งเป็นนักฟุตบอลที่เล่นให้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เช่นเดียวกัน โดยสุภโชคลงเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุก[2] และเขายังมีน้องชายอีกคนชื่อ โชติกะ เหมือนตา ซึ่งเป็นนักฟุตบอลที่เล่นตำแหน่งกองหลังให้กับบุรีรัมย์ด้วยเช่นกัน[3] ศุภณัฏฐ์ใช้นามสกุลของบิดา ในขณะที่สุภโชคใช้นามสกุลของมารดา
ศุภณัฏฐ์ มีชื่อเป็น 1 ใน 60 ผู้เล่นดาวรุ่งพุ่งเกินร้อยน่าจับตาจากทั่วโลก (Next Generation 2019) จากการคัดเลือกของ The Guardian สื่อดังในประเทศอังกฤษ
สโมสรอาชีพ
บุรีรัมย์ ยูในเต็ด
ฤดูกาล 2561
ศุภณัฏฐ์เป็นเจ้าของสถิติถึง 2 รายการ คือ นักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในไทยลีกด้วยวัยเพียง 15 ปี 8 เดือน 22 วันในนัดที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชนะ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 2–1 เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2561 และเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในไทยลีกด้วยวัย 15 ปี 9 เดือน 25 วันในนัดที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี 5–0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 ซึ่งสถิติทั้งสองเดิมเป็นของ เอกนิษฐ์ ปัญญา ผู้เล่นจาก เชียงราย ยูไนเต็ด
ฤดูกาล 2562
ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ นัดชิงชนะเลิศ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก ฤดูกาล 2561 เจอกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แชมป์ช้าง เอฟเอคัพ 2561 ที่สนามกีฬากองทัพบกในกรุงเทพมหานคร ศุภณัฏฐ์ลงเล่นเป็นตัวสำรองในนัดนั้น สุดท้าย บุรีรัมย์ แซงเอาชนะ สิงห์ เชียงราย 3–1 ช่วยให้บุรีรัมย์คว้าแชมป์ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ สมัยแรก ได้สำเร็จ[5] ต่อมาในวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2562 ศุภณัฏฐ์ลงเล่นในเกมเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก กลุ่ม G นัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะช็อนบุกฮุนไดมอเตอส์ สโมสรจากเกาหลีใต้ ไปได้ 1–0 ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดของสโมสรและเป็นผู้เล่นอายุน้อยอันดับที่ 5 ที่ลงเล่นในการแข่งขันระดับทวีปนี้[6] ต่อมาในวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2562 เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก กลุ่ม G ศุภณัฏฐ์ทำหนึ่งประตูในนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านพ่ายแพ้ต่อเป่ย์จิงกั๋วอัน 1–3 ทำให้เขาเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่สามารถทำประตูในการแข่งขันระดับทวีปนี้ได้[7] ต่อมาในวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ศุภณัฏฐ์ทำประตูแรกในลีกในนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะนครราชสีมาไปได้ 2–0[8] ต่อมาในวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ศุภณัฏฐ์ทำประตูที่ 2 ในลีก ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะพีทีที ระยอง ไปได้ 5–0[9] ต่อมาในวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ศุภณัฏฐ์ทำประตูที่ 3 ในลีก ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะเชียงใหม่ไปได้ 4–0[10]
ในวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 ศุภณัฏฐ์ทำสองประตูช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะสมุทรปราการ ซิตี้ ที่สนามกกท. บางพลี 4–1[11] ต่อมาในวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2562 ศุภณัฏฐ์ทำประตูที่ 6 ในลีกด้วยลูกโหม่ง เป็นประตูชัยทำให้บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะพีทีที ระยอง ที่พีทีทีสเตเดียม 1–0 กลับขึ้นเป็นจ่าฝูงไทยลีกได้สำเร็จ[12] ต่อมาในวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2562 ช้าง เอฟเอคัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย บุรีรัมย์บุกไปตามตีเสมอตราด 2–2 ทั้งที่ถูกนำก่อน 0–2 ทำให้ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ ซึ่งศุภณัฏฐ์เป็นผู้ยิงคนที่สาม และเขาก็ยิงเข้าไปได้ สุดท้าย บุรีรัมย์สามารถเอาชนะตราดในการยิงลูกโทษไปได้ 5–4 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ[13] ต่อมาในวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2562 ศุภณัฏฐ์ทำประตูที่ 7 ในลีก ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะราชบุรี มิตรผล ไปได้ 6–0[14] ต่อมาในวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2562 ศุภณัฏฐ์ทำประตูที่ 8 ในลีก โดยเป็นประตูตีไข่แตก ในนัดที่ บุรีรัมย์ พ่ายแพ้ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เอสซีจีสเตเดียม 1–3[15] ต่อมาในวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2562 โตโยต้า ลีกคัพ รอบชิงชนะเลิศ บุรีรัมย์พบกับ พีที ประจวบ ที่เอสซีจีสเตเดียมในจังหวัดนนทบุรี ผลจบลงด้วยการเสมอ 1–1 ในเวลา 120 นาที ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ ศุภณัฏฐ์ เป็นคนยิงคนที่ 3 แต่เขายิงไปติดเซฟของ ณัฐพงษ์ ขจรมาลี ผู้รักษาประตูของประจวบ สุดท้าย บุรีรัมย์พ่ายแพ้ประจวบในช่วงลูกโทษ 7–8 ผลประตูรวม 8–9 พลาดโอกาสคว้าแชมป์ โตโยต้า ลีกคัพ อย่างน่าเสียดาย[16]
ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2562 ศุภณัฏฐ์ มีชื่อติด 1 ใน 60 ผู้เล่นดาวรุ่งน่าจับตามองประจำปี จัดอันดับโดยเดอะการ์เดียน[17][18] ต่อมาในวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ศุภณัฏฐ์ได้รับรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน ในงาน AFF Awards 2019[19] ต่อมาในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2562 ศุภณัฏฐ์ มีชื่อติด 1 ใน 6 ผู้เล่นดาวรุ่งที่น่าจับตามองในเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก 2019[20]
ฤดูกาล 2563–64
วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2563 ในงานแถลงข่าว “สานพลังบอลไทยไปเลสเตอร์ซิตี” มีการเปิดเผยว่า ศุภณัฏฐ์ ร่วมกับเพื่อนร่วมทีมอีกสองคน ได้แก่ สุภโชค สารชาติ และศุภชัย ใจเด็ด จะได้ไปทดสอบฝีเท้ากับเลสเตอร์ซิตีในอังกฤษหลังจบฤดูกาล 2563–2564[21] (อย่างไรก็ตาม โครงการทดสอบฝีเท้านี้ได้เลื่อนไปเป็นหลังจบฤดูกาล 2564–65 เนื่องจากการระบาดทั่วของโควิด-19) ต่อมาในวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2564 ศุภณัฏฐ์ทำประตูแรกในไทยลีก ฤดูกาล 2563–64 ช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะตราด 2–0[22] ต่อมาในวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2564 เขาทำประตูที่ 2 ในลีก ช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะสุโขทัย 3–0[23]
ฤดูกาล 2564–65
วันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2564 ศุภณัฏฐ์ทำประตูแรกในไทยลีก ฤดูกาล 2564–65 ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านแซงเอาชนะโปลิศ เทโรในเกมลีกนัดที่สองไปได้ 3–1[24] ต่อมาในวันที่ 6 ตุลาคม เขาทำประตูที่สองในลีก ช่วยให้ทีมเอาชนะสมุทรปราการ ซิตี้ 2–1 ที่เขากระโดง สเตเดียม[25] ต่อมาในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2565 ศุภณัฏฐ์ทำประตูที่ 3 ในลีก ช่วยให้ทีมบุกไปเอาชนะเชียงใหม่ ยูไนเต็ดที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี 4–1[26] และในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ เขาทำประตูที่ 4 ในลีก ช่วยให้ทีมบุกไปเอาชนะนครราชสีมา มาสด้าที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 3–0[27] ต่อมาในวันที่ 18 พฤษภาคม การแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ 2564–65 รอบรองชนะเลิศ เขาทำประตูชัยช่วยให้ทีมเอาชนะสุพรรณบุรีที่สนามกลางชลบุรีสเตเดียม 3–2 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ[28] และในวันที่ 29 พฤษภาคม การแข่งขันรีโว่ ลีกคัพ 2564–65 นัดชิงชนะเลิศ เขาทำประตูช่วยให้ทีมเอาชนะแชมป์เก่าอย่างพีที ประจวบที่บีจีสเตเดียมไปได้ 4–0 คว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 6 และคว้าทริปเปิลแชมป์ภายในประเทศได้สำเร็จ[29]
ฤดูกาล 2565–66
ก่อนเปิดฤดูกาล 2565–66 ศุภณัฏฐ์ได้เปลี่ยนไปใส่เสื้อหมายเลข 21 ต่อมาในวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2565 ศุภณัฏฐ์ทำสองประตูแรกในการแข่งขันไทยลีก ฤดูกาล 2565–66 ช่วยให้ทีมบุกเอาชนะชลบุรีที่ชลบุรีสเตเดียม 3–2 ต่อมาในวันที่ 11 กันยายน เขาทำประตูที่ 3 ในลีกช่วยให้ทีมเปิดบ้านไล่ตามตีเสมอเมืองทอง ยูไนเต็ด 1–1[30] ต่อมาในวันที่ 30 ตุลาคม เขาทำประตูที่ 4 ในลีก เป็นประตูชัยช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด 1–0[31] ต่อมาในวันที่ 5 พฤศจิกายน เขาทำประตูที่ 5 ในลีก ช่วยให้ทีมบุกเอาชนะลำปาง 3–0[32] ต่อมาในวันที่ 9 พฤศจิกายน เขาทำประตูที่ 6 ในลีก ช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด 4–1[33] และในวันที่ 30 พฤศจิกายน การแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ 2565–66 รอบ 32 ทีมสุดท้าย เขาทำประตูช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะนครปฐม ยูไนเต็ด 2–0 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ[34]
วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2566 การแข่งขันรีโว่ คัพ 2565–66 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เขาทำประตูช่วยให้ทีมบุกไปเอาชนะเมืองทอง ยูไนเต็ดที่ธันเดอร์โดมสเตเดียม 1–2 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จ[35] ต่อมาในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เขาทำประตูที่ 7 ในลีก ช่วยให้ทีมบุกไปเอาชนะบีจี ปทุม ยูไนเต็ดที่บีจีสเตเดียม 2–0[36] นับเป็นการเอาชนะบีจี ปทุมครั้งแรกในรอบ 8 นัด นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2561 และในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เขาทำประตูที่ 8 ในลีก ช่วยให้ทีมบุกไปเสมอกับเมืองทอง ยูไนเต็ดที่ธันเดอร์โดมสเตเดียมแบบสนุก 4–4[37] ต่อมาวันที่ 22 กุมภาพันธ์ การแข่งขันรีโว่ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ เขาทำประตูช่วยให้ทีมบุกไปเอาชนะทรูแบงค็อก ยูไนเต็ดที่ทรูสเตเดียม 3–0 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ[38]
วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2566 การแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ 2565–66 รอบรองชนะเลิศ ณ สนามกลาง ดรากอน โซลาร์ ปาร์คในจังหวัดราชบุรี ศุภณัฏฐ์ทำหนึ่งประตูช่วยให้ทีมเอาชนะการท่าเรือ 2–0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ[39] สัปดาห์ถัดมา การแข่งขันรีโว่ คัพ 2565–66 รอบรองชนะเลิศ ณ สนามกลาง ชลบุรี ยูทีเอ สเตเดียม ในจังหวัดชลบุรี เขาทำหนึ่งประตูช่วยให้ทีมเอาชนะรองแชมป์ฤดูกาลที่แล้วอย่างพีที ประจวบ 2–0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ[40]
เอาด์-เฮเฟอร์เลเลอเฟิน (ยืมตัว)
ในเดือนกันยายน 2566 ศุภณัฏฐ์ ได้ย้ายไปร่วมทีมเอาด์-เฮเฟอร์เลเลอเฟิน แบบยืมตัว หลังจากที่เจ้าตัวได้ไปร่วมฝึกซ้อมกับเลสเตอร์ ซิตี้ ทีมพันธมิตรของลูเวิน และมีโอกาสได้ลงทีมอุ่นเครื่องในนามของโอเอช ลูเวินพบกับเลสเตอร์ โดยเขาทำแอสซิสต์ได้ 1 ลูก หลังจากนั้น เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ประกาศปล่อยตัวเขาให้ลูเวิน ยืมตัว 1 ฤดูกาล เพื่อสู้ศึกในลีกเบลเยี่ยม โดยมีการเปิดตัวกับสโมสรอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 กันยายน 2566
ทีมชาติไทย
รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี
รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี
ในการแข่งขันฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก กลุ่ม K นัดที่สอง วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2562 ศุภณัฏฐ์ทำ 2 ประตูช่วยให้ทีมชาติไทยเอาชนะบรูไนไปได้ 8–0[46]
ในการแข่งขันกีฬาฟุตบอลในซีเกมส์ 2019 รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 2 วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ศุภณัฏฐ์ยิงหนึ่งประตูช่วยให้ทีมชาติไทยเอาชนะบรูไนไปได้ 7–0[47] ต่อมาในนัดที่ 3 วันที่ 1 ธันวาคม ศุภณัฏฐ์ยิงหนึ่งประตู และทำหนึ่งแอสซิสต์ ช่วยให้ทีมชาติไทยเอาชนะสิงคโปร์ไปได้ 3–0[48] ต่อมาในนัดที่ 4 วันที่ 3 ธันวาคม ศุภณัฏฐ์ยิง 2 ประตูในช่วงท้ายเกม ช่วยให้ทีมชาติไทยเอาชนะทีมชาติลาวไปได้ 2–0[49] และในนัดสุดท้าย วันที่ 5 ธันวาคม ทีมชาติไทยพบกับกับเวียดนาม โดยในนัดนี้ ทีมชาติไทยต้องชนะอย่างน้อย 2 ประตู จึงจะการันตีเข้ารอบตัดเชือก ศุภณัฏฐ์ยิงให้ทีมชาติไทยขึ้นนำ 2–0 แต่สุดท้ายก็ถูกเวียดนามตามตีเสมอ 2–2 ทำให้ทีมชาติไทยตกรอบแบ่งกลุ่มซีเกมส์เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี[50]
ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2562 ศุภณัฏฐ์ มีชื่อติด 23 คนสุดท้ายของทีมชาติไทยในการแข่งขันฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี 2020 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ[51] ต่อมาในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ นัดแรกที่ราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2563 ศุภณัฏฐ์ทำ 2 ประตู ช่วยให้ทีมชาติไทยเอาชนะบาห์เรนไปได้ 5–0[52] โดยในนัดนี้ศุภณัฏฐ์ทำสถิติเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูได้ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้ายด้วยวัย 17 ปี 5 เดือน 6 วัน[53]
ชุดใหญ
ในวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2562 ศุภณัฏฐ์ มีชื่อติดทีมชาติไทยในยุคของ อากิระ นิชิโนะ เป็นครั้งแรก ในนัดกระชับมิตรที่จะพบกับ สาธารณรัฐคองโก และฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก นัดที่ไทยจะเปิดบ้านพบกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์